Browse Tag by การวางแผน
เรื่องของเวลา

การบริหารเวลาสำหรับนักเดินทาง

การบริหารเวลาสำหรับนักเดินทาง

การบริหารเวลาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเดินทาง โดยเฉพาะนักธุรกิจที่ต้องการใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพ คำแนะนำในการบริหารเวลาสำหรับนักเดินทางมีดังนี้

1.วางแผนการเดินทางล่วงหน้า ซึ่งรวมถึงการจองเที่ยวบิน ที่พัก และกิจกรรมต่างๆ ด้วยการวางแผนล่วงหน้า คุณสามารถหลีกเลี่ยงการเสียเวลาในวันเดินทางได้

2.สร้างตารางเวลาและยึดตามนั้นให้มากที่สุด สิ่งนี้จะช่วยให้คุณใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดและหลีกเลี่ยงการใช้เวลามากเกินไป

3.มีความยืดหยุ่นและปรับตัวได้ สิ่งต่างๆ ไม่ได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้เสมอไปเมื่อคุณเดินทาง ดังนั้นควรเตรียมปรับตารางเวลาของคุณตามความจำเป็น

4.มอบหมายงาน หากคุณกำลังเดินทางร่วมกับผู้อื่น ให้มอบหมายงานต่างๆ เช่น จัดกระเป๋า การเช็คอินเที่ยวบิน และการนำทาง

5.ใช้ประโยชน์จากการหยุดทำงาน หากคุณต้องหยุดพักหรือหยุดทำงานเป็นเวลานานที่จุดหมายปลายทาง ให้ใช้เวลานั้นทำงานโดยใช้แล็ปท็อป อ่านหนังสือ หรือพักผ่อน

ก่อนการเดินทางของคุณ

1.power pack สิ่งนี้จะช่วยคุณประหยัดเวลาและความยุ่งยากที่สนามบิน

2.พิมพ์บอร์ดดิ้งพาสและเอกสารสำคัญอื่นๆ ของคุณ สิ่งนี้จะช่วยคุณประหยัดเวลาที่สนามบิน

3.ดาวน์โหลดแอปหรือแผนที่ที่จำเป็นลงในโทรศัพท์ของคุณ สิ่งนี้จะช่วยคุณนำทางไปยังจุดหมายปลายทางโดยไม่ต้องพึ่ง Wi-Fi

4.ค้นหาจุดหมายปลายทางของคุณและเขียนรายการกิจกรรมที่คุณต้องการทำ วิธีนี้จะช่วยให้คุณจัดลำดับความสำคัญของเวลาและหลีกเลี่ยงการเสียเวลากับกิจกรรมที่คุณไม่สนใจ

ที่สนามบิน

1.มาถึงสนามบินก่อนเวลา นี่จะทำให้คุณมีเวลาเช็คอินเที่ยวบิน ผ่านการรักษาความปลอดภัย และค้นหาประตูขึ้นเครื่อง

2.ใช้ตู้เช็คอินแบบบริการตนเอง หากมี สิ่งนี้จะช่วยคุณประหยัดเวลาในการต่อแถว

3.หากคุณมีสัมภาระที่โหลดใต้ท้องเครื่อง ให้ฝากไว้ที่เคาน์เตอร์สัมภาระโดยเร็วที่สุด วิธีนี้จะทำให้มือของคุณว่างขึ้นและช่วยให้คุณเคลื่อนที่ไปมาได้ง่ายขึ้น

4.ใช้ Wi-Fi ของสนามบินเพื่อตรวจสอบอีเมลหรือทำงานบนแล็ปท็อปของคุณ

เรื่องของเวลา

แชร์เทคนิคบริหารเวลาทำงานให้มีประสิทธิภาพง่าย ๆ ที่ชาวออฟฟิศควรรู้

แชร์เทคนิคบริหารเวลาทำงานให้มีประสิทธิภาพง่าย ๆ ที่ชาวออฟฟิศควรรู้

ทุกคนมีเวลาเท่ากันคือ 24 ชั่วโมง แต่หลายครั้งเราก็ใช้เวลาไปเปล่าประโยชน์ และมีสิ่งรบกวนใจมากมาย ทำให้ใช้เวลาทำงานไม่คุ้มค่า เช่น เล่นมือถือเพลิน จนนอนดึก ตื่นเช้าไปทำงานไม่ไหว, มีงานด่วนเข้าแทรกจนจัดการเวลาไม่ดี รวมทั้งมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลให้เวลาของคุณลดลงอย่างไม่รู้ตัว เราจึงนำเทคนิคการบริหารเวลาทำงานง่าย ๆ อย่างมีประสิทธิภาพมาฝากทุกคนกัน

ทำ To do list
พนักงานออฟฟิศจะเข้าใจดีว่า นอกเหนืองานหลักที่เราต้องทำแล้ว ยังมีงานอื่นเข้ามาแทรกตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการตอบอีเมล์ลูกค้า รับสายโทรศัพท์ หัวหน้าเรียกประชุมกะทันหัน หรือเปลี่ยนรายละเอียดงานกลางคัน ก็ล้วนแต่ทำให้เสียเวลาทำงานทั้งสิ้น จนหลายคนงานไม่เสร็จ ต้องหอบงานกลับไปทำที่บ้าน และเสียเวลาอยู่กับครอบครัวอีก ซึ่งวิธีการแก้ปัญหาก็ง่าย ๆ คือ ทำTo-do list ว่างานไหนงานด่วน อันไหนไม่เร่ง กล่าวคือ เราควรทำงานที่ด่วนสุดก่อน ตามด้วยงานประจำ และทำงานที่กำหนดเดดไลน์ช้าสุดภายหลัง

หาเวลาพักบ้างในแต่ละวัน
การตะลุยงานมาราธอน เร่งรีบให้งานเสร็จทันทีในเวลาอันสั้น เป็นสิ่งที่ดี แต่หากโหมงานหนักเกินไป จะกลายเป็นว่างานนั้นมีคุณภาพลดลง ต้องกลับมาแก้ไขใหม่ภายหลัง เสียเวลาไปอีก วิธีแก้ง่าย ๆ คือ ตั้งเป้าหมายว่า เมื่อเราทำงานไปจนถึงจุด ๆ หนึ่งแล้ว ควรหยุดพัก ไปเข้าห้องน้ำ ดื่มกาแฟ หรือพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน จะช่วยให้สมองผ่อนคลาย มีสมาธิทำงานมากขึ้น และผิดพลาดน้อยลง

ศึกษาโปรแกรมทำงานเพิ่มเติม ช่วยประหยัดเวลาทำงาน
เทคโนโลยีปัจจุบันก้าวหน้าไปมาก มีคนทำคอนเทนต์สอนการทำ Microsoft Office แบบง่าย ๆ ให้คุณหาดูได้ทาง Youtube ซึ่งการศึกษาซอฟต์แวร์ออฟฟิศเพิ่มเติม ย่อมช่วยประหยัดเวลาทำงานไปได้ไม่น้อย จากเดิมใช้เวลาทำงาน 8 ชั่วโมง อาจลดเหลือ 3 ชั่วโมงก็ได้ เช่น ศึกษาการทำสารบัญ/บรรณานุกรมอัตโนมัติ หรือเรียนรู้สูตร Excel อื่น ๆ มากขึ้น ก็ช่วยร่นเวลาทำงานได้เช่นกัน

อย่าเสียเวลาไปกับการประชุม
มั่นใจเลยว่าพนักงานบริษัทร้อยละ 90 เบื่อการประชุมแน่นอน เพราะใช้เวลายืดยาว และผู้ฟังส่วนมากไม่เกี่ยวกับงานนั้นๆ การอ่านสรุปการประชุมภายหลัง ก็ยังเข้าใจเนื้อหาทั้งหมด ดังนั้นหากมั่นใจว่าคุณไม่มีส่วนร่วมกับการประชุม เป็นเพียงพนักงานระดับปฏิบัติการธรรมดา ควรหาโอกาสคุยกับหัวหน้าว่าขอทำงานด่วนก่อน หรือหากคุณเป็นผู้นำเสนอในที่ประชุม พยายามพูดอย่างกระชับ ใช้เวลาสั้นๆ

เผื่อเวลาฉุกเฉินเอาไว้บ้าง
การผัดวันประกันพรุ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับชาวออฟฟิศ เพราะเราจะเร่งทำงานจริงๆ ก็ต่อเมื่องานนั้นมีกำหนดเดดไลน์ชัดเจน แต่อย่าลืมว่าการรีบทำงานในเวลากระชั้นชิดจนเกินไป ย่อมมีความเสี่ยงที่จัดการงานไม่ทัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีงานด่วนแทรก เรียกได้ว่าเป็นจังหวะลุ้นระทึกเลยทีเดียวว่าจะปั่นงานเสร็จทันไหม ดังนั้นอย่าผัดวันทำงานบ่อยนัก ควรค่อยๆ ทยอยทำ เผื่อกรณีฉุกเฉินเอาไว้ด้วย

5 เทคนิคที่แนะนำมาในวันนี้ ย่อมช่วยบริหารเวลาสำหรับชาวออฟฟิศแน่นอน และที่สำคัญเราควรหมั่นดูแลสุขภาพด้วย เนื่องจากหากสุขภาพไม่ดี เข้าโรงพยาบาลบ่อย ๆ ย่อมเสียโอกาสในการทำงาน จนประสิทธิภาพของงานลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

บริหารเวลาทำงาน

เวลาว่างหลังเลิกงาน ทำอาชีพเสริมอะไรดี?

เวลาว่างหลังเลิกงาน ทำอาชีพเสริมอะไรดี

การมีอาชีพเสริมเป็นวิธีที่ดีในการใช้เวลาว่างหลังเลิกงานให้เกิดประโยชน์ และมีโอกาสใหม่ๆในการหารายได้เสริม การเลือกอาชีพเสริมขึ้นอยู่กับความสนใจ ทักษะ และเป้าหมายส่วนตัวของคุณ เราคัดสรรอาชีพมาให้คุณบางส่วน ดังต่อไปนี้

1.การทำงานฟรีแลนซ์
หากคุณมีทักษะในการเขียน การออกแบบกราฟิก การพัฒนาเว็บ หรือด้านอื่นๆ การทำงานฟรีแลนซ์อาจเป็นตัวเลือกที่ยืดหยุ่นได้ คุณสามารถดำเนินโครงการตามความพร้อมของคุณและสร้างพอร์ตโฟลิโอพร้อมกับหารายได้เสริมได้เลย

2.การสอนหรือการกวดวิชา
หากคุณมีความเชี่ยวชาญในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง คุณสามารถพิจารณาสอนหรือติวในเวลาว่างได้ ซึ่งสามารถทำได้ด้วยตนเองหรือทางออนไลน์ และมักมีความต้องการผู้สอนในวิชาต่างๆ ภาษา หรือการเตรียมสอบ

3.ธุรกิจออนไลน์
หากคุณมีจิตวิญญาณของผู้ประกอบการ การเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์อาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า คุณสามารถขายผลิตภัณฑ์หรือบริการ สร้างและขายผลิตภัณฑ์ดิจิทัลผ่านช่องทางต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็น facebook instagram tiktok หรือแม้แต่สร้างบล็อกหรือช่อง YouTube เพื่อสร้างรายได้ผ่านโฆษณาหรือเนื้อหาที่ได้รับการสนับสนุน

4.การให้คำปรึกษา
หากคุณมีความรู้เฉพาะทางหรือประสบการณ์ในอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง คุณสามารถเสนอความเชี่ยวชาญของคุณในฐานะที่ปรึกษาได้ บริษัทหรือบุคคลจำนวนมากยินดีจ่ายเงินสำหรับคำแนะนำและแนวทางอย่างมืออาชีพในด้านต่างๆ เช่น การตลาด การเงิน ทรัพยากรบุคคล หรือเทคโนโลยี

5.ศิลปะและงานฝีมือ
หากคุณมีทักษะด้านศิลปะหรือชอบงานฝีมือ คุณสามารถสำรวจโอกาสในการขายผลงานสร้างสรรค์ของคุณทางออนไลน์หรือที่ตลาดท้องถิ่น แพลตฟอร์มเช่น Etsy เป็นตลาดซื้อขายสินค้าแฮนด์เมด และคุณสามารถเปลี่ยนงานอดิเรกของคุณให้เป็นกระแสรายได้เสริม

อย่าลืมเลือกอาชีพเสริมที่ตรงกับความสนใจและถนัด เพราะจะทำให้สนุกและเติมเต็มประสบการณ์มากขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องจัดการเวลาของคุณอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรักษาสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตที่ดี

เรื่องของเวลา

เทคนิคการบริหารเวลาสำหรับคนเวลาน้อย

เทคนิคการบริหารเวลาสำหรับคนเวลาน้อย

ในปัจจุบันมีความวุ่นวายเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก อาจทำให้เราเกิดความสับสนวุ่นวายได้ วันนี้จึงมีเทคนิคการบริหารเวลา ที่จะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายในชีวิต และมีเวลาว่างมากขึ้น มาดูกันค่ะว่าเทคนิคการบริหารเวลาสำหรับคนเวลาน้อยมีอะไรบ้าง

เทคนิคการบริหารเวลาสำหรับคนเวลาน้อย

1.การทำ list จัดลำดับความสำคัญงาน
การจัดลำดับความสำคัญของงานถือว่ามีความสำคัญ เราสามารถลำดับความสำคัญของงานจากงานที่ด่วน หรือมีความสำคัญที่สุดในเริ่มต้นของวัน เพราะเป็นช่วงเวลาที่สมองโล่ง พร้อมที่จะรับสิ่งใหม่ ๆ ทำให้เราทำงานออกมาได้ดี และเป็นการช่วยทำงานให้ได้ตามเป้ามากขึ้น

2.พิจารณางานแทรก
เชื่อว่างานแทรกนั้น เกิดขึ้นได้เสมอ และตลอดเวลา ดังนั้นหากมีงานแทรกขึ้นมา ให้พิจารณาถึงความ
เร่งด่วนและมีความสำคัญ หรือสามารถมอบหมายให้ทำแทนได้ เพื่อทำให้เกิดการบริหารเวลาได้ง่ายขึ้น และทำให้เราไปเร่งรีบจนเกินไป

3.ประเมินและปรับปรุงตารางเวลาให้มีความเหมาะสม
ขั้นตอนนี้ถือว่ามีความสำคัญ ที่ต่อจากทำ list และการพิจารณางานแทรก เพราะจะทำให้เราทราบว่าสิ่งที่เราได้วางแพลนไว้นั้น มีความถูกต้องและใช้ได้หรือไม่ และควรวางแผนการบริหารเวลาต่อไปอย่างไร เพื่อปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเป็นการจัดสรรเวลาได้อย่างเหมาะสมลงตัว

4.จัดสรรเวลาและกับการพักผ่อนและการออกกำลังกาย
การพักผ่อนและการออกกำลังกาย ถือว่ามีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการบริหาร เพราะจะนำมาซึ่ง
สุขภาพที่ดี ซึ่งหากเรามีสุขภาพที่ดีแล้วก็จะนำมาซึ่งความสุข และอยากจะกระทำสิ่งต่าง ๆ ซึ่งส่งผลต่อการบริหารจัดการเวลาของเราได้อีกด้วย การพักผ่อนหรือการออกกำลังกายที่เราสามารถทำได้ เช่น การออกเดินทางท่องเที่ยว การอยู่กับครอบครัว หรือ การเล่นกับน้องหมา

5.กำหนดเวลาในการใช้สื่อโซเซียล
ในปัจจุบันสื่อโซเชียลถือว่ามีอิทธิพล ต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคนเราเป็นอย่างมาก บางคนใช้เวลากับสิ่งเหล่านี้ไปหลายชั่วโมงในแต่ละวัน ซึ่งจะนำมาซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงาน ทำให้ขาดการจัดสรรเวลาที่มีประสิทธิภาพ เราจึงควรจะต้องกำหนดเวลาในการเข้าใช้ให้มีความชัดเจน เช่นไม่ควรเกินวันละ 2 ชั่วโมงต่อวัน และหันมาทำสิ่งอื่น ๆ ที่มีความจำเป็นมากขึ้น เช่นการอยู่กับครอบครัว หรือการรับประทานอาหารกับครอบครัว แล้วยังจะทำมาซึ่งมิตรภาพที่ดีอีกด้วย

จะเห็นว่าทุกคนมีเวลาเท่ากัน คือ 24 ชั่วโมง และเวลาถือว่าเป็นทรัพยากรที่มีค่า เราจึงควรจัดสรรเวลาให้เกิดประโยชน์มากที่สุด การบริหารจัดการเวลาที่ดีแล้ว นอกจากจะทำมาซึ่งการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นอีกด้วยค่ะ

Uncategorized

เปิดเทคนิคการบริหารเวลาของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ

เปิดเทคนิคการบริหารเวลาของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ

ไม่มีใครหนีความจริงเรื่องทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากันพ้น แต่ทำไมบางคนสามารถบริหารและจัดสรรเวลาเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า โดยเฉพาะเหล่านักธุรกิจที่มักสามารถสร้างผลกำไรมหาศาลได้จากเวลาที่มีเท่ากันกับเราทุกคน ถึงพวกเขาจะดูงานยุ่ง แต่น่าแปลกใจที่พวกเขายังมีเวลามากมายในการพักผ่อนและพัฒนาตนเอง คนเหล่านั้นมีเทคนิคอะไรที่ใช้ในการแบ่งเวลาเพื่อให้ธุรกิจประสบความสำเร็จกันแน่ วันนี้จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจด้วยกัน

1.วางแผนอย่างจริงจัง
นักธุรกิจส่วนใหญ่มักจะมีตารางงานที่แน่นอน โดยมีการกำหนดวัน เวลา และเป้าหมายที่ต้องทำให้สำเร็จในแต่ละช่วงเวลาเอาไว้อย่าชัดเจน โดยตารางเวลาเหล่านั้นถูกสร้างขึ้นมาจากการวางแผนอย่างจริงจังและรัดกุม โดยพิจารณาจากปัจจัยที่ครอบคลุมเอาไว้อย่างรอบคอบ เมื่อพวกเขามุ่งมั่นทำตามเป้าหมายโดยไม่ย่อท้อ จึงทำให้สร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้อย่างไม่ยากเย็น

2.ตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ที่ทำตามได้ง่าย
หลายคนอ่านข้อแรกแล้วคงรีบลุกขึ้นมาวางแผน ตั้งเป้าหมายสุดยิ่งใหญ่เอาไว้ในใจกันใช่ไหม แต่หยุดก่อน ลองเอาเทคนิคข้อที่สองไปใช้ประกอบกันด้วย เป้าหมายที่ตั้งในแต่ละวันควรเป็นเรื่องเล็ก ควรเป็นสิ่งที่สามารถทำตามได้ง่ายโดยไม่ต้องเหนื่อยยากจนเกินไป เพราะยิ่งเป้าหมายยากและใหญ่ ยิ่งมีโอกาสที่ทำให้เกิดความท้อแท้จนถอดใจไปก่อนที่จะสำเร็จ แต่ถ้าเป็นเรื่องเล็ก ๆ ค่อย ๆ ทำไป คุณจะรู้สึกสบาย ๆ รู้สึกตัวอีกทีจะเดินใกล้จุดหมายในฝันโดยไม่รู้ตัว

3.อย่านอนตื่นสาย
ถ้าตื่นเช้าให้มากขึ้น จะมีเวลาเพิ่มขึ้นโดยที่คุณไม่ทันได้สังเกตมาก่อนเลย เพราะช่วงเวลาในตอนเช้า เป็นเวลาที่ค่อนข้างสงบ ไม่วุ่นวาย จึงทำให้เข้าสู่สมาธิได้ง่าย จึงมีโอกาสที่งานจะถูกทำได้อย่างลุล่วง นอกจากนั้นยังอาจเกิดไอเดียใหม่ ๆ ได้มากขึ้นเช่นกัน

4.มอบหมายงานให้คนอื่นบ้าง
อย่าแบกงานทุกอย่างมาทำคนเดียว คุณต้องรู้จักแบ่งงานและมอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบให้กับคนที่เหมาะสมด้วย เพราะคนเราไม่ได้เก่งทุกอย่าง ถ้าบางสิ่งมีคนเชี่ยวชาญกว่าคุณ คุณสามารถยกงานให้เขาได้ แล้วเอาเวลาไปทำสิ่งที่คุณถนัด ทั้งทีมจะได้บรรลุเป้าหมายไปพร้อมกัน

5.พักบ้างให้สมองได้คิด
ถ้าคุณเอาแต่มุ่งหน้ามุ่งตาทำงาน โดยไม่แบ่งเวลาให้สมองได้พักผ่อนบ้างเลย จะรู้สึกอ่อนล้าจนไม่สามารถไปต่อกับงานในที่สุด ดังนั้นต้องหมั่นหาโอกาสพักผ่อน ให้เวลาสมองได้ตกตะกอนแนวคิดและวิธีการใหม่ ๆ ทำตัวให้สดใส ดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจให้เข้มแข็ง จึงจะสามารถไปถึงจุดหมายได้อย่างมั่นคง

สิ่งนี้เป็นแนวทางในการบริหารเวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากเหล่านักธุรกิจที่มีประสบการณ์ได้แนะนำมา ต่อให้คุณไม่ใช่ผู้ประกอบการ การนำเรื่องราวเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ จะสามารถทำให้คุณประสบความสำเร็จตามเป้าหมายในใจของคุณได้เช่นกัน ขอเพียงมีความมุ่งมั่นที่จะก้าวไปข้างหน้าเท่านั้น

เรื่องของเวลา

บริหารเวลายังไงให้ทำอะไรได้เยอะขึ้น

บริหารเวลายังไงให้ทำอะไรได้เยอะขึ้น

ในทุกวันนี้ เราหันไปทางไหนก็มีแต่คนบอกว่างานล้นมือ งานยุ่ง จนไม่มีเวลาทำนั่นนี่ให้เสร็จ กลายเป็นมีงานคั่งค้าง ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพการงานเท่าที่ควร และขาดเวลาไปศึกษาเรื่องอื่นที่จะทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้นได้ เช่น การพัฒนาบุคลิกภาพ การเรียนรู้ด้านการลงทุน การออกกำลังกาย ฯลฯ

เรามาดูกันว่า หากต้องการเวลาในการทำอะไรให้ได้มากขึ้นกว่าเดิม ต้องทำอย่างไรบ้าง

1. แบ่งเวลาตามสูตร 8-8-8
8-8-8 เป็นสูตรที่ช่วยให้ชีวิตมีสมดุลขึ้น เราควรต้องมีเวลานอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้ตื่นตัวในวันถัดไป เวลาอีก 8 ชั่วโมงสำหรับการทำงานและอีก 8 ชั่วโมงสำหรับการใช้ชีวิตส่วนตัว เช่น ดูหนังพักผ่อน ใช้เวลาร่วมกับครอบครัว ฯลฯ

2. ทำตารางเวลาล่วงหน้า
การทำสมุดบันทึกกิจกรรมที่ต้องทำในวันถัดไปล่วงหน้าตอนก่อนนอน เป็นตัวช่วยที่ดี คุณจะรู้ว่าพอตื่นนอนแล้วต้องทำอะไรบ้างตามลำดับ ทำให้งานทุกอย่างที่วางแผนไว้สำเร็จได้ง่าย ไม่คั่งค้างให้วันถัดไปต้องทำงานหนักจนอ่อนเพลียและสมองล้า

3. พูดปฏิเสธให้เป็น
คนไทยเป็นคนขี้เกรงใจ แต่ก็จำเป็นต้องใช้ให้ถูกเรื่อง การบริหารเวลาของตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการเกรงใจคนอื่น หากใครขอความช่วยเหลือจากคุณในเรื่องที่ไม่จำเป็น หรือคุณยังมีงานอื่นที่คั่งค้างอยู่ ก็ควรปฏิเสธพูดไป

4. มีกฎเกณฑ์เล็กน้อยกับตัวเอง
กฎเกณฑ์บางอย่างทำให้เรามุ่งมั่นที่จะบริหารเวลาได้ดีขึ้น เช่น จะไม่รับประทานข้าวบนโต๊ะทำงาน นั่นหมายความว่าเราต้องทำงานทุกอย่างให้เสร็จสิ้นตามแผน เมื่อถึงเวลาก็ต้องรับประทานอาหารให้ตรงเวลา ฝึกบ่อย ๆ จะทำให้เราโฟกัสกับงานตรงหน้าอย่างเต็มที่ขึ้น

5. มีเป้าหมายที่ชัดเจน
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณต้องการลดน้ำหนัก แต่มีข้ออ้างว่าเวลาไม่พอจึงไม่เริ่มเสียที การกำหนดว่าจะออกกำลังกายเพื่อให้ลดน้ำหนักให้ได้ 5 กิโลกรัมใน 3 ปี เป็นเทคนิคที่ดีทำให้ยึดมั่นและเกิดการสร้างวินัยอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นอุปนิสัยใหม่ได้

6. ใช้ตัวช่วยบ้าง
ตัวช่วยที่เราหมายถึง ได้แก่ การนั่งรถไฟฟ้า รถแท็กซี่ แทนการขับรถเองบ้างในบางครั้ง การซื้ออาหารที่มีวิธีการทำงานซับซ้อนแทนการทำเองในบางโอกาส เป็นสิ่งที่ทำให้คุณประหยัดเวลาที่มีอยู่จำกัดให้ไปใส่ใจกับสิ่งที่สำคัญกว่าได้ดีขึ้น

การบริหารเวลาอย่างมีการวางแผน เป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องรับผิดชอบตัวเองในเมื่อทุกวันมี 24 ชั่วโมง คนที่จัดการเวลาได้เก่ง จึงประสบความสำเร็จในชีวิตได้สูง เราหวังว่าคุณจะนำเทคนิคที่กล่าวมาไปดัดแปลงให้เข้ากับชีวิต เพื่อจัดสมดุลได้ดีขึ้น

บริหารเวลาทำงาน

เทคนิคการบริหารเวลาเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

4 เทคนิคบริหารเวลา

ถ้าให้เลือกบางสิ่งบางอย่างคุณจะเลือกอะไรให้กับชีวิต หนึ่ง การงาน สอง เงิน สาม สุขภาพ สี่ ความสัมพันธ์ ห้า เวลา ซึ่งแน่นอนว่าคำตอบของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไป ถ้าเป็นคำตอบของเรา คือ เวลา เพราะถ้าไม่มีเวลาแล้ว ก็ไม่สามารถทำงานได้ นำไปสู่การไม่มีเงิน ไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัวและเพื่อนฝูง ก็จะทำให้สูญเสียความสัมพันธ์ นอกจากนี้ถ้าไม่มีเวลานอนหลับก็จะทำให้เจ็บป่วยจนเสียสุขภาพได้

ในทางตรงข้าม หากมีเวลาเหลือเฟือก็สามารถจัดการทุกอย่างที่ต้องการและทำให้มีความสุขในชีวิตเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เวลามีจำกัด แค่ 24 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เราจึงมี 4 เทคนิคการบริหารเวลาเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ดังต่อไปนี้

4 เทคนิคบริหารเวลา

เทคนิคที่ 1 กิจกรรมที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นการตั้งคำถามกับตัวเองว่า “สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตคืออะไร” แล้วจัดกิจกรรมที่มีความสำคัญในส่วนนี้เป็นอันดับแรกหรือด่วนที่สุดที่จะต้องทำ ซึ่งแต่ละคนมีมุมมองต่อความสำคัญที่สุดไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ไม่มีใครตอบแทนใครได้ว่าเรื่องไหนสำคัญนอกจากตัวเอง เช่น บางคนเน้นเรื่องงานเป็นหลัก บางคนเน้นเรื่องความสัมพันธ์หรือความรัก เป็นต้น

เทคนิคที่ 2 กิจกรรมที่ไม่ด่วนที่สุด แต่จำเป็นต้องทำ

การบริหารเวลาในส่วนนี้ ทุกคนจะต้องมีเพราะเป็นกิจกรรมประจำวัน แต่อย่างไรก็ตาม ก็เป็นเรื่องที่ไม่ด่วนมากนัก เช่น ซักผ้า ทำความสะอาดบ้านในกรณีที่ต้องทำเอง ไม่ได้จ้างแม่บ้าน เป็นต้น หากไม่มีเวลาทำกิจกรรมในส่วนนี้ ก็จะทำให้มีผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นบ้านสกปรก ไม่มีเสื้อผ้าใส่เพราะไม่ได้ซักผ้า

เทคนิคที่ 3 กิจกรรมที่สามารถให้คนอื่นทำสิ่งต่าง ๆ แทนคุณ

การบริหารเวลาในส่วนนี้ เป็นกิจกรรมที่สามารถให้คนอื่นทำแทนกันได้ เช่น จองตั๋วคอนเสิร์ต จองตั๋วเครื่องบิน ฝากเพื่อนร่วมงานถ่ายเอกสาร จ้างคนอื่นทำงานแทน เป็นต้น ซึ่งเป็นการช่วยให้คุณได้ประหยัดเวลาเพื่อไปทำหรือโฟกัสในสิ่งที่คุณอยากทำและสำคัญมากกว่า

เทคนิคที่ 4 กิจกรรมที่สนุกสนาน

การจัดการเวลาในส่วนนี้ จะมีหรือไม่มีก็ได้เพราะไม่ได้สำคัญมากนัก เช่น การดูหนัง ฟังเพลงในยูทูป เล่นเกมส์ เที่ยว แชทเล่นกับเพื่อน เป็นต้น เป็นเวลาที่ไม่มีผลกระทบหรือความเสียหายแต่อย่างใดเพราะเป็นเวลาที่ทำให้เพลิดเพลินและเติมสีสันให้กับชีวิตเท่านั้น หากเวลาส่วนนี้มีมากเกินไปก็อาจไปกระทบหรือกินเวลาในส่วนอื่น ๆ ที่เราได้กล่าวไว้แล้วข้างต้น

หากไม่มีการบริหารเวลา ก็จะส่งผลกระทบต่อการวางแผนที่ต้องทำในแต่ละวัน ว่าจะทำอะไร ที่ไหนและอย่างไร กล่าวคือ สิ่งที่ทำอยู่นั้นก็จะไม่สามารถดำเนินการได้ แสดงให้เห็นว่าเป็นการใช้เวลาโดยเปล่าประโยชน์และไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น การบริหารเวลา อย่างเหมาะสม จึงเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะประสบความสำเร็จและมีความสุขในเรื่องต่าง ๆ นั่นเอง

เทคนิคการบริหารเวลาเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

เรื่องของเวลา

วิธีบริหารเวลาขั้นเทพ 2019 ทำอย่างไรให้คุ้มค่า

วิธีบริหารเวลาขั้นเทพ 2019 ทำอย่างไรให้คุ้มค่า

ในแต่ละวันเรามีเวลาเท่ากันคือ 24 ชั่วโมง แต่สิ่งที่แตกต่างกัน คือ การ บริหารเวลา ที่มีประสิทธิภาพไม่เท่ากัน จึงส่งผลต่อระดับการประสบความสำเร็จในชีวิต ทั้งด้านการงาน การเงิน และชีวิตส่วนตัว การบริหารเวลาที่ลงตัว จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ทุกคนประสบความสำเร็จได้สูง ไม่ว่าจะอยู่ในวัยเรียนหรือทำงาน

เราจึงได้รวบรวมเทคนิคการบริหารเวลาขั้นเทพที่ทุกท่านสามารถนำไปใช้ได้ มาฝากกัน ดังนี้

1. ใส่ใจเฉพาะเรื่องสำคัญ มองข้ามเรื่องหยุมหยิมบ้าง

การใส่ใจในทุกเรื่องและทุกรายละเอียด จะทำให้เสียเวลาที่มีคุณค่าไปโดยเปล่าประโยชน์ ที่เห็นได้ชัดคือ การเลือกเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ที่ผู้บริหารส่วนมากจะเลือกเสื้อผ้าแบบเดียวกัน เป็นสูทเข้มและเสื้อเชิ้ตสีพื้น ที่ทำให้ไม่ต้องเลือกมากในการแต่งกาย แม้แต่ผู้บริหารชั้นนำรุ่นใหม่ อย่าง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ก็ใช้เสื้อยืดสีพื้นใส่คู่กับกางเกงยีนส์ในการทำงานทุกวัน ทั้งนี้ เพราะคนเหล่านี้เลือกใช้เวลาไปกับเรื่องที่สามารถสร้างรายได้หรือทำให้มีการเติบโตทางธุรกิจมากกว่า การเลือกเสื้อผ้าในชีวิตประจำวันนั่นเอง

2. มีการวางแผนตารางเวลาและวิเคราะห์จุดอ่อนสม่ำเสมอ

นอกจากนักบริหารที่ต้องมีตารางเวลาเคร่งครัดแล้ว ผู้ที่ทำงานด้านวงการบันเทิงอย่างดาราฮอลลีวู้ด พิธีกร youtuber ชื่อดังจำนวนมาก จะมีตารางเวลาที่กำหนดไว้ เช่น การออกกำลังกายในช่วงเช้าก่อนการไปทำงาน เพื่อทำให้รูปร่างสวยงามสมส่วน และทำให้อารมณ์แจ่มใสอยู่เสมอ และหากทำไม่ได้ตามเป้าหมายในตาราง ก็จะทำการวิเคราะห์ตัวเองว่าเกิดจากจุดด้อยอย่างไร เพื่อทำการแก้ไขโดยเร่งด่วน จะทำให้การบริหารเวลาในวันต่อไปมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

3. ลำดับความสัมพันธ์ให้เป็นแบบมืออาชีพ

งานแต่ละชิ้นจะมีความสำคัญและการเร่งด่วนไม่เท่ากัน งานบางอย่างยังต้องใช้พลังความคิด ใช้แรงงานในการปฏิบัติ หรือต้องประสานงานกับบุคคลต่าง ๆ ในวงการธุรกิจ เช่น ลูกค้า แผนกกฎหมาย ฝ่ายบุคคล ฯลฯ ซึ่งล้วนต้องใช้ทักษะและเวลาไม่เท่ากัน ผู้ที่ประสบความสำเร็จในทุกวงการ มักเลือกงานที่สำคัญมากที่สุดและต้องใช้พลังกายและใจมากที่สุด ทำให้สำเร็จเป็นอันดับต้น ๆ ของวัน เพราะร่างกายได้รับการพักผ่อนมาอย่างเต็มที่ตลอดคืน จึงทำให้มีประสิทธิภาพในการคิดได้อย่างโลดแล่น มองการณ์ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ส่วนงานที่สำคัญน้อยกว่าจะทำในช่วงบ่ายหรือตอนเย็น หรือยกให้ผู้อื่นช่วยประสานงานแทน

จะเห็นได้ว่า เทคนิคการบริหารเวลาขั้นเทพที่ยกตัวอย่างมา เป็นสิ่งที่เราทุกคนนำไปใช้ได้ในทุกสาขาอาชีพ ขอเพียงมีความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเองให้ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นในทุกด้าน ก็ย่อมทำให้การบริหารเวลามีประสิทธิภาพ สามารถใช้เวลาในแต่ละวันได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด

รวบรวมเทคนิคการบริหารเวลาขั้นเทพ