Browse Category by เรื่องของเวลา
เรื่องของเวลา

จัดการเวลารับประทานอาหารเพื่อลดน้ำหนัก

จัดการเวลารับประทานอาหารเพื่อลดน้ำหนัก

การบริหารเวลามื้ออาหารอาจเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก เคล็ดลับบางประการต่อไปนี้จะช่วยคุณจัดโครงสร้างมื้ออาหารและสร้างกิจวัตรการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ

1.กินเป็นประจำ ตั้งเป้ากินอาหารหลักสามมื้อ (เช้า กลางวัน และเย็น) และของว่างเล็กๆ น้อยๆ สองถึงสามมื้อตลอดทั้งวัน การรับประทานอาหารเป็นประจำจะช่วยควบคุมความหิวและป้องกันการกินมากเกินไป

2.อย่าข้ามอาหารเช้า เริ่มต้นวันใหม่ด้วยอาหารเช้าที่มีคุณค่าทางโภชนาการ สิ่งนี้สามารถกระตุ้นการเผาผลาญของคุณและให้พลังงานแก่คุณสำหรับวันข้างหน้า

3.ขนาดส่วนควบคุม คำนึงถึงขนาดชิ้นส่วนเพื่อหลีกเลี่ยงการกินมากเกินไป ใช้จาน ชาม และภาชนะที่มีขนาดเล็กลงเพื่อช่วยควบคุมปริมาณอาหาร

4.รวมโปรตีน รวมแหล่งโปรตีนไร้มันไว้ในมื้ออาหารของคุณ โปรตีนช่วยให้คุณอิ่มและสนับสนุนการบำรุงรักษากล้ามเนื้อในระหว่างการลดน้ำหนัก

5.จัดลำดับความสำคัญของผัก เติมผักให้เต็มครึ่งจาน มีแคลอรี่ต่ำและมีเส้นใยสูง ซึ่งสามารถช่วยให้คุณรู้สึกพึงพอใจโดยได้รับแคลอรี่น้อยลง

6.เลือกอาหารทั้งหมด เลือกใช้อาหารทุกส่วนที่ไม่ผ่านการแปรรูป โดยทั่วไปแล้วอาหารเหล่านี้จะมีสารอาหารหนาแน่นกว่าและสามารถช่วยควบคุมความอยากอาหารของคุณได้

7.ไฮเดรตก่อนมื้ออาหาร ดื่มน้ำหนึ่งแก้วก่อนมื้ออาหาร วิธีนี้สามารถช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มมากขึ้นและป้องกันการกินมากเกินไป

8.การรับประทานอาหารอย่างมีสติ ใส่ใจกับสิ่งที่คุณกำลังรับประทานและลิ้มรสอาหารแต่ละคำ การรับประทานอาหารอย่างมีสติสามารถช่วยให้คุณรู้ว่าเมื่อใดที่คุณพอใจแล้ว ซึ่งช่วยลดโอกาสที่จะบริโภคมากเกินไป

9.กำหนดเวลามื้ออาหารปกติ จัดตารางการรับประทานอาหารให้สม่ำเสมอ. สิ่งนี้สามารถช่วยควบคุมความหิวและความอิ่มของร่างกาย ทำให้ควบคุมน้ำหนักได้ง่ายขึ้น

10.หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารดึก พยายามทานอาหารมื้อสุดท้ายให้เสร็จสักสองสามชั่วโมงก่อนเข้านอน การทานอาหารว่างตอนดึกอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นเนื่องจากระบบเผาผลาญของร่างกายมีแนวโน้มที่จะช้าลงระหว่างการนอนหลับ

11.จำกัดแคลอรี่ของเหลว ระวังเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและเครื่องดื่มแคลอรี่สูง เลือกใช้น้ำ ชาสมุนไพร หรือตัวเลือกแคลอรี่ต่ำอื่นๆ

12.วางแผนของว่างเพื่อสุขภาพ เตรียมของว่างเพื่อสุขภาพไว้ล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงการหยิบตัวเลือกที่ไม่ดีต่อสุขภาพเมื่อคุณหิว ของขบเคี้ยวสามารถช่วยรักษาระดับพลังงานให้คงที่ระหว่างมื้ออาหารได้

13.ติดตามการบริโภคอาหารของคุณ ใช้ไดอารี่อาหารหรือแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อติดตามมื้ออาหารของคุณ วิธีนี้สามารถเพิ่มความตระหนักรู้เกี่ยวกับนิสัยการกินของคุณและช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพได้

14.คงเส้นคงวา ความสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ ยึดตามตารางมื้ออาหารของคุณและตัดสินใจเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพอย่างสม่ำเสมอเมื่อเวลาผ่านไป

15.ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ลองปรึกษากับนักโภชนาการหรือนักโภชนาการที่ลงทะเบียนเพื่อสร้างแผนการรับประทานอาหารส่วนบุคคลที่สอดคล้องกับเป้าหมายการลดน้ำหนักและความต้องการด้านสุขภาพของคุณ

เรื่องของเวลา

การบริหารเวลาสำหรับนักเดินทาง

การบริหารเวลาสำหรับนักเดินทาง

การบริหารเวลาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเดินทาง โดยเฉพาะนักธุรกิจที่ต้องการใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพ คำแนะนำในการบริหารเวลาสำหรับนักเดินทางมีดังนี้

1.วางแผนการเดินทางล่วงหน้า ซึ่งรวมถึงการจองเที่ยวบิน ที่พัก และกิจกรรมต่างๆ ด้วยการวางแผนล่วงหน้า คุณสามารถหลีกเลี่ยงการเสียเวลาในวันเดินทางได้

2.สร้างตารางเวลาและยึดตามนั้นให้มากที่สุด สิ่งนี้จะช่วยให้คุณใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดและหลีกเลี่ยงการใช้เวลามากเกินไป

3.มีความยืดหยุ่นและปรับตัวได้ สิ่งต่างๆ ไม่ได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้เสมอไปเมื่อคุณเดินทาง ดังนั้นควรเตรียมปรับตารางเวลาของคุณตามความจำเป็น

4.มอบหมายงาน หากคุณกำลังเดินทางร่วมกับผู้อื่น ให้มอบหมายงานต่างๆ เช่น จัดกระเป๋า การเช็คอินเที่ยวบิน และการนำทาง

5.ใช้ประโยชน์จากการหยุดทำงาน หากคุณต้องหยุดพักหรือหยุดทำงานเป็นเวลานานที่จุดหมายปลายทาง ให้ใช้เวลานั้นทำงานโดยใช้แล็ปท็อป อ่านหนังสือ หรือพักผ่อน

ก่อนการเดินทางของคุณ

1.power pack สิ่งนี้จะช่วยคุณประหยัดเวลาและความยุ่งยากที่สนามบิน

2.พิมพ์บอร์ดดิ้งพาสและเอกสารสำคัญอื่นๆ ของคุณ สิ่งนี้จะช่วยคุณประหยัดเวลาที่สนามบิน

3.ดาวน์โหลดแอปหรือแผนที่ที่จำเป็นลงในโทรศัพท์ของคุณ สิ่งนี้จะช่วยคุณนำทางไปยังจุดหมายปลายทางโดยไม่ต้องพึ่ง Wi-Fi

4.ค้นหาจุดหมายปลายทางของคุณและเขียนรายการกิจกรรมที่คุณต้องการทำ วิธีนี้จะช่วยให้คุณจัดลำดับความสำคัญของเวลาและหลีกเลี่ยงการเสียเวลากับกิจกรรมที่คุณไม่สนใจ

ที่สนามบิน

1.มาถึงสนามบินก่อนเวลา นี่จะทำให้คุณมีเวลาเช็คอินเที่ยวบิน ผ่านการรักษาความปลอดภัย และค้นหาประตูขึ้นเครื่อง

2.ใช้ตู้เช็คอินแบบบริการตนเอง หากมี สิ่งนี้จะช่วยคุณประหยัดเวลาในการต่อแถว

3.หากคุณมีสัมภาระที่โหลดใต้ท้องเครื่อง ให้ฝากไว้ที่เคาน์เตอร์สัมภาระโดยเร็วที่สุด วิธีนี้จะทำให้มือของคุณว่างขึ้นและช่วยให้คุณเคลื่อนที่ไปมาได้ง่ายขึ้น

4.ใช้ Wi-Fi ของสนามบินเพื่อตรวจสอบอีเมลหรือทำงานบนแล็ปท็อปของคุณ

เรื่องของเวลา

5 เคล็ดลับการบริหารเวลาอย่างไรให้ลงตัว

5 เคล็ดลับการบริหารเวลาอย่างไรให้ลงตัว

เรามักจะได้ยินคนบ่นว่าเวลาไม่พอ ทั้งที่แต่ละวันทุกคนมี 24 ชั่วโมงเท่ากัน ไม่มีใครมีเวลามากกว่าหรือน้อยกว่ากัน แต่เพราะหลายคนขาดทักษะการบริหารเวลา โดยเฉพาะในที่ทำงาน เมื่อเราเสียสมาธิและเสียเวลาไปกับสิ่งรบกวน ทำให้บริหารเวลายาก หลายคนต้องการแผนปรับปรุงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้น มีเคล็ดลับ 6 ข้อมาแนะนำกัน ดังนี้

1.กำหนดตารางเวลาและตั้งระบบเตือนล่วงหน้า
สิ่งแรกที่ควรทำคือจดว่าแต่ละวันมีงานสำคัญอะไรบ้างแล้ววางแผนสิ่งที่ทำ กำหนดตารางเวลาอย่างเหมาะสม ขอแนะนำให้ตั้งระบบเตือนล่วงหน้าประมาณ 15 นาทีก่อนการประชุมหรืองานสำคัญอื่นๆ เพื่อให้เตรียมตัวได้ทันและทำงานได้อย่างครบถ้วน รู้ว่าเวลาที่เหลือยังทำอะไรได้อีกบ้าง ทุกวันควรใช้เวลาอย่างมีคุณค่าเพราะการบริหารเวลาคือกุญแจสู่ความสำเร็จ

2. การวางแผนการใช้เวลาในแต่ะวัน
ทำรายการสิ่งที่คุณต้องทำในวันนั้น จัดเรียงตามลำดับความสำคัญจากมากไปน้อย ควรให้เวลากับสิ่งที่สำคัญมากที่สุดก่อนเสมอ ถัดไปคือแบ่งงานที่ต้องทำให้เสร็จในวันนั้น และงานที่ไม่รีบแต่ทำต่อเนื่อง เพื่อให้รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง ทำอะไรก่อน-หลัง และงานที่ต้องทำต่อเนื่องนั้นควรทำวันละมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้ทำเสร็จทันตามกำหนดและงานมีคุณภาพ ขอแนะนำให้จัดการสะสางงานยากให้เสร็จก่อน เพราะงานง่ายใช้เวลาน้อย จะทำได้แบบผ่อนคลายมากขึ้น วิธีนี้ลดความเหนื่อย ลดความกดดันได้ไม่น้อยเลย งานไหนเสร็จแล้วให้ทำเครื่องหมายไว้

3. จัดสรรเวลาทำแต่ละงานให้เหมาะสม
กำหนดเวลาทำงานก่อนว่างานไหนใช้เวลาเท่าไร ถ้าหมดเวลาก่อน ให้หยุดแล้วไปทำสิ่งที่ต้องทำลำดับต่อไปเพื่อให้ไม่ให้เสียเวลา หลังจากนั้นค่อยย้อนกลับมาทบทวนสะสางงานที่ยังค้างไว้ให้เสร็จ ถือเป็นวิธีการแบ่งเวลาที่ช่วยลดความกดดัน รู้สึกผ่อนคลายและเครียดน้อยลง ไม่วิตกกังวลและมีสมาธิกับงานที่ทำมากขึ้น

4. โฟกัสกับงานที่ทำ
ปิดกั้นตัวเองจากสิ่งรบกวนที่อาจทำให้หลุดโฟกัสจากงานได้ง่าย เช่น กำหนดเวลาเช็คอีเมลวันละ 3 ครั้งเพื่อไม่ให้ขัดจังหวะการทำงาน ถ้าอีเมลนั้นสำคัญและใช้เวลาไม่นานให้รีบทำทันที หากอ่านแล้วไม่เข้าใจหรือใช้เวลาตอบนานให้เก็บไว้ก่อน ค่อยกลับมาจัดการในภายหลัง เป็นการลดสิ่งที่ไม่ควรต้องเสียเวลาช่วยให้ทำงานอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

5. สร้างกิจวัตรที่ประหยัดเวลา
ลดเวลาจากสิ่งที่เคยทำเป็นประจำ เช่น นานๆ ครั้งค่อยออกไปรับประทานอาหารไกลออฟฟิศหรือไกลบ้าน หากเลือกที่ใกล้ก็ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางหรือปรับเปลี่ยนวิธีการเดินทางจะช่วยประหยัดเวลาได้มากขึ้น

การบริหารเวลาเป็นเรื่องสำคัญ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณใช้เวลาไปกับสิ่งที่ไม่สำคัญมากแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นเล่นโซเชียลมีเดียหรือชอปปิ้งออนไลน์บนโทรศัพท์มือถือ หากคุณมีการบริหารจัดการเวลาที่ดี สามารถลดทอนหรือตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปได้ จะทำจัดสรรเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ มีเวลาทำงานมากขึ้น และมีชีวิตส่วนตัวที่ดีขึ้นด้วย

ทักษะนี้จะช่วยเสริมความเป็นผู้นำได้ พยายามเอาชนะความท้าทายเหล่านี้ไปให้ได้ สุดท้ายผลประโยชน์ก็จะตกอยู่ที่ตัวคุณเอง

เรื่องของเวลา

แชร์เทคนิคบริหารเวลาทำงานให้มีประสิทธิภาพง่าย ๆ ที่ชาวออฟฟิศควรรู้

แชร์เทคนิคบริหารเวลาทำงานให้มีประสิทธิภาพง่าย ๆ ที่ชาวออฟฟิศควรรู้

ทุกคนมีเวลาเท่ากันคือ 24 ชั่วโมง แต่หลายครั้งเราก็ใช้เวลาไปเปล่าประโยชน์ และมีสิ่งรบกวนใจมากมาย ทำให้ใช้เวลาทำงานไม่คุ้มค่า เช่น เล่นมือถือเพลิน จนนอนดึก ตื่นเช้าไปทำงานไม่ไหว, มีงานด่วนเข้าแทรกจนจัดการเวลาไม่ดี รวมทั้งมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลให้เวลาของคุณลดลงอย่างไม่รู้ตัว เราจึงนำเทคนิคการบริหารเวลาทำงานง่าย ๆ อย่างมีประสิทธิภาพมาฝากทุกคนกัน

ทำ To do list
พนักงานออฟฟิศจะเข้าใจดีว่า นอกเหนืองานหลักที่เราต้องทำแล้ว ยังมีงานอื่นเข้ามาแทรกตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการตอบอีเมล์ลูกค้า รับสายโทรศัพท์ หัวหน้าเรียกประชุมกะทันหัน หรือเปลี่ยนรายละเอียดงานกลางคัน ก็ล้วนแต่ทำให้เสียเวลาทำงานทั้งสิ้น จนหลายคนงานไม่เสร็จ ต้องหอบงานกลับไปทำที่บ้าน และเสียเวลาอยู่กับครอบครัวอีก ซึ่งวิธีการแก้ปัญหาก็ง่าย ๆ คือ ทำTo-do list ว่างานไหนงานด่วน อันไหนไม่เร่ง กล่าวคือ เราควรทำงานที่ด่วนสุดก่อน ตามด้วยงานประจำ และทำงานที่กำหนดเดดไลน์ช้าสุดภายหลัง

หาเวลาพักบ้างในแต่ละวัน
การตะลุยงานมาราธอน เร่งรีบให้งานเสร็จทันทีในเวลาอันสั้น เป็นสิ่งที่ดี แต่หากโหมงานหนักเกินไป จะกลายเป็นว่างานนั้นมีคุณภาพลดลง ต้องกลับมาแก้ไขใหม่ภายหลัง เสียเวลาไปอีก วิธีแก้ง่าย ๆ คือ ตั้งเป้าหมายว่า เมื่อเราทำงานไปจนถึงจุด ๆ หนึ่งแล้ว ควรหยุดพัก ไปเข้าห้องน้ำ ดื่มกาแฟ หรือพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน จะช่วยให้สมองผ่อนคลาย มีสมาธิทำงานมากขึ้น และผิดพลาดน้อยลง

ศึกษาโปรแกรมทำงานเพิ่มเติม ช่วยประหยัดเวลาทำงาน
เทคโนโลยีปัจจุบันก้าวหน้าไปมาก มีคนทำคอนเทนต์สอนการทำ Microsoft Office แบบง่าย ๆ ให้คุณหาดูได้ทาง Youtube ซึ่งการศึกษาซอฟต์แวร์ออฟฟิศเพิ่มเติม ย่อมช่วยประหยัดเวลาทำงานไปได้ไม่น้อย จากเดิมใช้เวลาทำงาน 8 ชั่วโมง อาจลดเหลือ 3 ชั่วโมงก็ได้ เช่น ศึกษาการทำสารบัญ/บรรณานุกรมอัตโนมัติ หรือเรียนรู้สูตร Excel อื่น ๆ มากขึ้น ก็ช่วยร่นเวลาทำงานได้เช่นกัน

อย่าเสียเวลาไปกับการประชุม
มั่นใจเลยว่าพนักงานบริษัทร้อยละ 90 เบื่อการประชุมแน่นอน เพราะใช้เวลายืดยาว และผู้ฟังส่วนมากไม่เกี่ยวกับงานนั้นๆ การอ่านสรุปการประชุมภายหลัง ก็ยังเข้าใจเนื้อหาทั้งหมด ดังนั้นหากมั่นใจว่าคุณไม่มีส่วนร่วมกับการประชุม เป็นเพียงพนักงานระดับปฏิบัติการธรรมดา ควรหาโอกาสคุยกับหัวหน้าว่าขอทำงานด่วนก่อน หรือหากคุณเป็นผู้นำเสนอในที่ประชุม พยายามพูดอย่างกระชับ ใช้เวลาสั้นๆ

เผื่อเวลาฉุกเฉินเอาไว้บ้าง
การผัดวันประกันพรุ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับชาวออฟฟิศ เพราะเราจะเร่งทำงานจริงๆ ก็ต่อเมื่องานนั้นมีกำหนดเดดไลน์ชัดเจน แต่อย่าลืมว่าการรีบทำงานในเวลากระชั้นชิดจนเกินไป ย่อมมีความเสี่ยงที่จัดการงานไม่ทัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีงานด่วนแทรก เรียกได้ว่าเป็นจังหวะลุ้นระทึกเลยทีเดียวว่าจะปั่นงานเสร็จทันไหม ดังนั้นอย่าผัดวันทำงานบ่อยนัก ควรค่อยๆ ทยอยทำ เผื่อกรณีฉุกเฉินเอาไว้ด้วย

5 เทคนิคที่แนะนำมาในวันนี้ ย่อมช่วยบริหารเวลาสำหรับชาวออฟฟิศแน่นอน และที่สำคัญเราควรหมั่นดูแลสุขภาพด้วย เนื่องจากหากสุขภาพไม่ดี เข้าโรงพยาบาลบ่อย ๆ ย่อมเสียโอกาสในการทำงาน จนประสิทธิภาพของงานลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เรื่องของเวลา

เทคนิคการบริหารเวลาสำหรับคนเวลาน้อย

เทคนิคการบริหารเวลาสำหรับคนเวลาน้อย

ในปัจจุบันมีความวุ่นวายเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก อาจทำให้เราเกิดความสับสนวุ่นวายได้ วันนี้จึงมีเทคนิคการบริหารเวลา ที่จะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายในชีวิต และมีเวลาว่างมากขึ้น มาดูกันค่ะว่าเทคนิคการบริหารเวลาสำหรับคนเวลาน้อยมีอะไรบ้าง

เทคนิคการบริหารเวลาสำหรับคนเวลาน้อย

1.การทำ list จัดลำดับความสำคัญงาน
การจัดลำดับความสำคัญของงานถือว่ามีความสำคัญ เราสามารถลำดับความสำคัญของงานจากงานที่ด่วน หรือมีความสำคัญที่สุดในเริ่มต้นของวัน เพราะเป็นช่วงเวลาที่สมองโล่ง พร้อมที่จะรับสิ่งใหม่ ๆ ทำให้เราทำงานออกมาได้ดี และเป็นการช่วยทำงานให้ได้ตามเป้ามากขึ้น

2.พิจารณางานแทรก
เชื่อว่างานแทรกนั้น เกิดขึ้นได้เสมอ และตลอดเวลา ดังนั้นหากมีงานแทรกขึ้นมา ให้พิจารณาถึงความ
เร่งด่วนและมีความสำคัญ หรือสามารถมอบหมายให้ทำแทนได้ เพื่อทำให้เกิดการบริหารเวลาได้ง่ายขึ้น และทำให้เราไปเร่งรีบจนเกินไป

3.ประเมินและปรับปรุงตารางเวลาให้มีความเหมาะสม
ขั้นตอนนี้ถือว่ามีความสำคัญ ที่ต่อจากทำ list และการพิจารณางานแทรก เพราะจะทำให้เราทราบว่าสิ่งที่เราได้วางแพลนไว้นั้น มีความถูกต้องและใช้ได้หรือไม่ และควรวางแผนการบริหารเวลาต่อไปอย่างไร เพื่อปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเป็นการจัดสรรเวลาได้อย่างเหมาะสมลงตัว

4.จัดสรรเวลาและกับการพักผ่อนและการออกกำลังกาย
การพักผ่อนและการออกกำลังกาย ถือว่ามีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการบริหาร เพราะจะนำมาซึ่ง
สุขภาพที่ดี ซึ่งหากเรามีสุขภาพที่ดีแล้วก็จะนำมาซึ่งความสุข และอยากจะกระทำสิ่งต่าง ๆ ซึ่งส่งผลต่อการบริหารจัดการเวลาของเราได้อีกด้วย การพักผ่อนหรือการออกกำลังกายที่เราสามารถทำได้ เช่น การออกเดินทางท่องเที่ยว การอยู่กับครอบครัว หรือ การเล่นกับน้องหมา

5.กำหนดเวลาในการใช้สื่อโซเซียล
ในปัจจุบันสื่อโซเชียลถือว่ามีอิทธิพล ต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคนเราเป็นอย่างมาก บางคนใช้เวลากับสิ่งเหล่านี้ไปหลายชั่วโมงในแต่ละวัน ซึ่งจะนำมาซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงาน ทำให้ขาดการจัดสรรเวลาที่มีประสิทธิภาพ เราจึงควรจะต้องกำหนดเวลาในการเข้าใช้ให้มีความชัดเจน เช่นไม่ควรเกินวันละ 2 ชั่วโมงต่อวัน และหันมาทำสิ่งอื่น ๆ ที่มีความจำเป็นมากขึ้น เช่นการอยู่กับครอบครัว หรือการรับประทานอาหารกับครอบครัว แล้วยังจะทำมาซึ่งมิตรภาพที่ดีอีกด้วย

จะเห็นว่าทุกคนมีเวลาเท่ากัน คือ 24 ชั่วโมง และเวลาถือว่าเป็นทรัพยากรที่มีค่า เราจึงควรจัดสรรเวลาให้เกิดประโยชน์มากที่สุด การบริหารจัดการเวลาที่ดีแล้ว นอกจากจะทำมาซึ่งการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นอีกด้วยค่ะ

เรื่องของเวลา

เพิ่มประสิทธิภาพให้ชีวิต ด้วยการ บริหารเวลา หากทำได้ เหลือเวลาเพียบ

เพิ่มประสิทธิภาพให้ชีวิต ด้วยการ บริหารเวลา หากทำได้ เหลือเวลาเพียบ

เวลาถือเป็นสิ่งมีค่าที่สุดในการดำเนินชีวิตและไม่สามารถย้อนกลับได้ ฉะนั้นการใช้ชีวิตจึงต้องอาศัยการวางแผนที่ดี อย่าได้ให้เกิดคำพูดที่ว่า “ไม่มีเวลา” เพราะนั่นมาจากปากของคนที่ไม่สามารถจัดสรรหรือ บริหารเวลาอะไรได้เลยและคนเราก็มีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน หากคุณสามารถจัดสรรได้คุณจะทำอะไรได้หลายอย่างในแต่ละวัน ฉะนั้นหากใครที่กำลังรู้สึกว่าชีวิตวุ่นวาย ไม่สามารถทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้เลย ลองลำดับความสำคัญและลองทำตามทริกเหล่านี้ดูก่อน

-ตื่นตั้งแต่เช้า เริ่มต้นด้วยการออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ทำให้กระฉับกระเฉง โดยต้องทำเป็นประจำใช้เวลา 15-30 นาทีต่อวันเท่านั้นและต้องทำต่อเนื่อง

-กำหนดเวลาในการเช็คเครื่องมือสื่อสารต่าง ๆ เป็นข้อที่กระทบต่อชีวิตหลายคน เพราะบางคนเมื่อได้เข้าสู่โลกออนไลน์มักจะเพลิดเพลิน รู้ตัวอีกทีก็กินเวลาไปเกือบครึ่งวัน จนไม่หลงเหลือเวลาไว้ทำเรื่องอื่นเลย ฉะนั้นต้องกำหนดเวลาในการเช็คอีเมล์ ช่องทางต่าง ๆ ให้ชัดเจน

-เลือกสถานที่ทำงานที่เป็นส่วนตัวมากที่สุด คนรอบข้างก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำลายสมาธิของคุณ เมื่อต้องเริ่มทำงานอย่างจริงจัง ควรเลือกมุมสงบที่มีแค่คุณเท่านั้น เพื่อไม่กระทบต่อการทำงานและสามารถบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

-เรียงลำดับงานง่ายไปหางานยากหรือทำงานที่เร่งก่อน เพราะงานง่าย ๆ จะทำให้คุณมีพลังพอที่จะทำงานอื่น ๆ ต่อไปและในการเลือกทำงานเร่งส่งก่อนจะช่วยให้คุณสามารถบริหารเวลา และสามารถทำงานส่งงานตรงเวลา

-นอนอย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่และไม่ง่วงระหว่างวัน

-เลือกใส่เสื้อผ้าแบบเรียบง่าย ถือเป็นทริกที่หลายคนสังเกตจากคนที่ประสบความสำเร็จมักจะสวมใส่เสื้อยืด กางเกงโทนสีเดิม ๆ

-วางแผนและเตรียมงานก่อนล่วงหน้า ก่อนจะเริ่มการทำงานควรจัดเตรียมงานก่อนเริ่ม 15 นาที เพื่อให้ได้งานที่มีประสิทธิภาพและไม่ทำให้คุณเร่งรีบจนเกิดข้อผิดพลาด ซึ่งส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ

-จดบันทึกในสิ่งที่จะต้องทำเสมอและมุ่งมั่นทำให้สำเร็จ ถือเป็นการตั้งเป้าหมายให้ตัวเองเลยว่าจะต้องทำงานให้สำเร็จในแต่ละวันว่ามีอะไรบ้าง เพื่อที่คุณจะได้บรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หลายคนอยากประสบความสำเร็จ แต่ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรและเมื่อลงมือทำก็ไม่สามารถทำได้สักทีหรือหากเริ่มต้นแล้ว แต่ชีวิตก็ยังวุ่นวาย ยังไม่ลงตัว นั่นเพราะคุณยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด ส่วนใหญ่เกิดจากการบริหารเวลาที่ขาดประสิทธิภาพ แต่หากคุณลองทำตามทริกที่เราได้นำเสนอไปแล้วนั้น เชื่อว่าคุณจะต้องประสบความสำเร็จในด้านใดด้านหนึ่งแน่นอน

Uncategorized, เรื่องของเวลา

นิสัยของคนบริหารเวลาเป็นและไม่เป็นส่งผลอย่างไร

นิสัยของคนบริหารเวลาเป็นและไม่เป็นส่งผลอย่างไร

เวลาเป็นสิ่งที่มีค่าและย้อนกลับคืนมาไม่ได้ บ่อยครั้งที่เรารู้สึกว่ามีเวลาไม่พอ ถ้าคุณบ่นว่าไม่มีเวลาอาจหมายความว่าคุณไม่รู้จักวางแผนล่วงหน้าและบริหารเวลาไม่เป็น ปล่อยให้เวลาสูญไปโดยเปล่าประโยชน์ทำให้ชีวิตวุ่นวายทำอะไรไม่ครบถ้วนไม่สำเร็จ นิสัยของคนที่บริหารเวลาเป็นและไม่เป็นแตกต่างกันอย่างไร ลองมาเปรียบเทียบกัน

นิสัยของคนบริหารเวลาเป็น

กำหนดตารางเวลาอย่างมีเป้าหมาย วางแผนและจดบันทึกสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน
เป็นเป้าหมายระยะสั้น และวางแผนเป้าหมายรายสัปดาห์หรือรายเดือนเป็นเป้าหมายระยะยาว

จัดลำดับความสำคัญ ทุ่มเทกับงานที่มีความสำคัญที่สุดก่อน มีสมาธิกับสิ่งที่กำลังทำอยู่และตั้งใจทำงานสำคัญให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด หลังจากทำงานสำเร็จแล้วจะรู้สึกผ่อนคลายและทำงานที่เหลือได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องวิตกกังวลไปกับทุกงาน

มีกิจวัตรประจำวันที่ทำเป็นประจำ ทำให้การใช้ชีวิตมีรูปแบบชัดเจน สร้างแรงจูงใจในการทำงาน และมีช่วงเวลาพักผ่อน ทำให้ความเครียดที่สะสมลดลง

แบ่งเวลางานและเวลาส่วนตัวให้สมดุล มีสมาธิจดจ่ออยู่กับการทำงานทีละอย่าง เมื่อถึงเวลาอยู่กับครอบครัวให้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าโดยไม่วิตกกังวลเรื่องงาน การยึดติดกับงานหรือบ้างานมากๆ อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ

นิสัยของคนบริหารเวลาไม่เป็น

ไม่วางแผนก่อนลงมือทำ ส่งผลให้ทุกอย่างตัดสินใจได้ยาก ขาดความเป็นระบบระเบียบทำให้เสียเวลามากขึ้น มักจะลืมทำบางอย่างเสมอ ทำงานล่าช้ากว่ากำหนดจนรู้สึกว่ามีเวลาไม่พอ

ไม่จัดลำดับความสำคัญให้ดี ทำให้ใช้เวลาไปจนหมดกับงานที่ไม่สำคัญ เพราะไม่รู้ว่าสิ่งไหนควรจะทำเป็นอันดับแรก ไม่รู้ว่าควรโฟกัสกับงานใดกันแน่ คนที่ไม่รู้จักแบ่งเวลามักจะทำหลายสิ่งหลายอย่างไม่ทัน ทำอะไรก็ล้มเหลวเสมอ

ไม่รู้จักการลำดับความสำคัญทำให้ทุกงานดูจะเป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วนไปทั้งหมด จึงมักจะทำงานหนักลูกเดียว ยุ่งมากจนไม่มีเวลาพักผ่อนเลยรู้สึกเหน็ดเหนื่อยตลอดเวลา

ผัดวันประกันพรุ่งจนเป็นนิสัย มักจะมีข้ออ้างไว้ค่อยทำวันหลัง เมื่อเวลากระชั้นชิดเข้ามาจึงรีบร้อนทำงานจนขาดความละเอียดรอบคอบ ไม่มีสมาธิกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ ทำงานสะเพร่าและผิดพลาดบ่อยครั้ง

ไม่ได้ตั้งเป้าหมาย จึงไม่ได้วางแผนวันหยุดทำให้ขาดการพักผ่อนและไม่ได้ใช้เวลาส่วนตัวของตัวเองอย่างคุ้มค่า ใช้ชีวิตอย่างไม่รู้เป้าหมาย ขาดความสุขไร้ชีวิตชีวา

การวางแผนและบริหารเวลาเป็นทำให้คนเรามองเห็นคุณค่าของเวลาและมีวินัยกับการใช้ชีวิตมากขึ้น คนที่บริหารเวลาไม่ดีพอจะใช้ชีวิตจนหมดแรงแทบไม่มีเวลาพัก หากชีวิตของคุณเป็นอย่างนี้ต้องเริ่มจัดการกับตัวเองได้แล้ว การวางแผนตารางเวลาอย่างพอเหมาะจะเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน จะไม่บ่นเรื่องเวลาไม่เรื่องไม่มีเวลาอีกแล้ว

เรื่องของเวลา

รวมเทคนิคบริหารเวลา อย่างมืออาชีพ สามารถทำตามได้จริง

รวมเทคนิคบริหารเวลา อย่างมืออาชีพ สามารถทำตามได้จริง

รู้หรือไม่ว่าทำไมคนเราทั้ง ๆ ที่มีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน แต่บางคนยังไม่สามารถบริหารเวลา ให้สามารถทำงาน ทำกิจกรรม พักผ่อนและเสริมสร้างความรู้ในการพัฒนาตนเองได้ นั่นเพราะเขาเหล่านั้นขาดการ บริหารเวลาที่ดีจึงทำให้ไม่สามารถทำงานอื่น ๆ ควบคู่กันไปได้ โดยในวันนี้จะมาแนะนำเทคนิค บริหารเวลา แบบมืออาชีพเพื่อให้ทุกคนนำไปปฏิบัติกัน

1.Today what I do

วันนี้ฉันจะทำอะไร ให้คุณทำตารางเวลาในแต่ละวัน ซึ่งจะต้องเขียนก่อนนอนเพื่อใช้งานในเช้าวันถัดไป เพื่อเป็น check list ของการทำงาน โดยอาจกำหนดเป็นรายชั่วโมงก็ได้ เช่น 08.00 – 10.00 น. ทำงาน, 10.00 -11.00 น. ประชุมงานร่วมกับฝ่ายขาย เป็นต้น หากงานประสบความสำเร็จก็ให้ check ถูก หรือ เขียนว่า สำเร็จ

2.เรียงลำดับความสำคัญ

เชื่อได้ว่าในแต่ละวันทุกคนต้องมีงานด่วน งานเร่ง คุณควรจัดลำดับความสำคัญทั้งหมดที่มีเสียก่อน เช่น งานด่วน อาจแทรกคิวในงานทั่วไปได้หรืองานที่ต้องทุ่มเทเวลา แต่สามารถทำนอกเวลาได้ ก็ควรขยับไปทำช่วงท้ายของวันหรือนำกลับไปทำที่บ้าน ซึ่งงานเหล่านี้คุณต้องรู้ด้วยตนเองว่าควรจะทุ่มเทให้กับงานใดก่อน

3.ทำงานที่ยากสุดเสมอ

ในเวลางานการทำงานที่ยากที่สุด ย่อมดีต่อตัวคุณ เพราะอย่างน้อยเวลาที่ติดปัญหาสามารถที่จะปรึกษาคนในทีมหรือขอรับความช่วยเหลือจากแผนกที่เกี่ยวข้องได้ เพราะถ้าหากเลิกงานไปแล้วอาจทำให้ติดต่อกลุ่มคนเหล่านั้นได้ลำบากและใช้เวลานานมากกว่าปกติ

4.ลด เวลาการใช้โซเชียล

หากไม่ว่างหรือยังไม่ถึงเวลาพักผ่อนจริง ควรงดหรือลดเวลาการใช้โซเชียล เพราะนอกจากจะทำให้คุณเบียดเบียนเวลาทำงานแล้วยังทำให้การทำงานของคุณล่าช้าไปด้วย

5.ทำงานให้เสร็จเป็นงาน ๆ

จงพึงระลึกไว้เสมอว่าคุณไม่ใช่ซุปเปอร์ฮีโร่ที่มีพลังวิเศษ ดังนั้นในการทำงานควรทำงานให้เสร็จเป็นงาน ๆ ไป อย่าทำพร้อมกัน 2 งาน 3 งาน นอกจากจะไม่มีงานไหนเสร็จแล้ว อาจทำให้งานออกมาไม่ดีและส่งไม่ทันกำหนดได้

6.หาตัวช่วยในการทำงาน

ไม่มีใครที่สามารถทำงานด้วยตัวคนเดียวได้ โดยเฉพาะงานที่ไม่ถนัดหรือไม่มีความรู้ การหาตัวช่วยจากผู้ที่เชี่ยวชาญหรือคนมีประสบการณ์มาก่อน ย่อมช่วยให้คุณสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นและใช้เวลาในการทำงานน้อยลง

7.เมื่อถึงเวลาพัก ควรพัก

การหอบงานไปทำที่บ้านแม้จะเป็นเรื่องดีที่จะช่วยให้คุณสามารถทำงานให้เสร็จทันตามเวลาที่กำหนดได้ แต่หากคุณพักผ่อนไม่เพียงพอก็อาจทำให้มีปัญหาได้เช่นกัน ดังนั้นเวลาพักผ่อนก็ควรจะพักผ่อนให้เต็มที่ เพราะหากไม่แล้วอาจทำให้คิดงานไม่ออกหรือแก้ไขปัญหาได้ยากขึ้น เนื่องจากขาดการนอนหลับพักผ่อนที่ดีนั่นเอง

เห็นหรือไม่ว่าต่อให้ขยันทำงานมากแค่ไหน ก็ควรจะต้องหาเวลาพักผ่อนให้กับตนเองด้วย เพราะไม่อย่างนั้นแล้วงานที่วางแผนไว้อาจไม่สามารถทำเสร็จให้ตรงเวลาได้และนี่เป็นเทคนิคที่จะช่วยให้คุณบริหารเวลาในการทำงานให้มีประสิทธิภาพได้

เรื่องของเวลา

3 เทคนิคบริหารเวลา สำหรับวัยรุ่นสร้างตัว ยุค 2022

3 เทคนิคบริหารเวลา สำหรับวัยรุ่นสร้างตัว ยุค 2022

ชีวิตคนเรานั้นต้องพบเจอเรื่องราวมากมายที่ชวนให้ปวดหัวและสับสน กระทบทั้งร่างกายและจิตใจได้อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่นที่มักประสบพบเจอกับปัญหาการเรียนและด้านความรักที่ถาโถมเข้ามาพร้อมกันในวัยนี้ ทั้งยังเป็นช่วงที่ต้องเริ่มตั้งเป้าหมายว่าจะดำเนินชีวิตไปในเส้นทางใดจึงจะดีที่สุดต่ออนาคต ทำให้ต้องรู้จักบริหารจัดการเวลาให้ลงตัวที่สุด จึงจะทำได้อย่างสำเร็จ

วันนี้เรามี 3 เทคนิคง่าย ๆ ที่ช่วยทำให้วัยรุ่นสร้างตัวใช้บริหารเวลาชีวิตได้อย่างราบรื่นมาแบ่งปันกัน

1.หยุดโฟกัสหลาย ๆ เรื่องในเวลาเดียวกัน
แม้จริงอยู่ที่ในหนึ่งวันเรามีสิ่งที่ต้องทำให้เสร็จมากมาย แต่ในบางเรื่องเราก็ไม่สามารถทำไปพร้อม ๆ กันได้ ด้วยเหตุนี้การจัดตารางเวลาและลำดับความสำคัญของงานจึงต้องทำเสมอ และมีเป้าหมายในชีวิตแบบวันต่อวันที่ชัดเจน ก็จะช่วยทำให้เราสามารถรับผิดชอบหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้ดีมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือ ทำให้มีสมาธิต่องานแต่ละชิ้นที่อยู่ตรงหน้า จะทำให้เกิดความผิดพลาดน้อยลงอย่างมาก

2.เริ่มต้นจากการทำในสิ่งที่ต้องทำ ก่อนหันไปทำสิ่งที่รัก
ทุกคนล้วนแล้วแต่อยากจะทำในสิ่งที่เรารักกันทั้งนั้น ทว่าในการดำเนินชีวิตช่วงเริ่มต้นเราจำเป็นต้องเลือกสิ่งที่ต้องทำก่อน เพื่อให้เราสามารถควบคุมค่าใช้จ่าย ตลอดจนภาระต่าง ๆ ที่เรารับผิดชอบให้ได้เป็นอย่างดี แล้ววันหนึ่งที่เรามีเงินมากพอ หรืองานที่รักนั้นสร้างรายได้ให้กับเราอย่างเพียงพอแล้ว ในตอนนั้นย่อมไม่ผิดที่เราจะเริ่มหันมาทำในสิ่งที่รัก ตัวอย่างง่าย ๆ เช่น การบริหารเวลาช่วงเช้าสำหรับออกกำลังกายดูแลสุขภาพ จัดเวลาช่วงกลางวันสำหรับเรียนหรือทำงานอย่างไม่ล่าช้า และเวลาในช่วงท้ายวันเพื่อการพักผ่อนดูหนัง ชมสื่อจากอินเทอร์เน็ตและสังคมออนไลน์ เป็นต้น

3.สร้างวินัยให้ตัวเอง
วินัยช่วยทำให้เรามีความอดทนไม่ยอมแพ้ต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งง่าย ๆ ด้วยเหตุนี้การฝึกฝนจนเป็นนิสัย ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง ก็จะช่วยทำให้เราสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างราบรื่น อีกทั้งวินัยยังช่วยทำให้เรามีระเบียบและเพิ่มทักษะในวิชาชีพได้อีกด้วย เช่น หากเราตั้งเป้าหมาว่า จะทำงานเสริม เพื่อเก็บเงินสร้างรายได้ทำธุรกิจเล็ก ๆ หลังเรียนจบ ก็ต้องมีวินัยในการทำงานเสริมอย่างขยันขันแข็ง แบ่งเวลาสำหรับการเรียน-ทำงาน-เดินทาง-ชีวิตส่วนตัวอย่างเป็นแบบแผน จะเป็นที่ชื่นชมของนายจ้างและเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน อีกทั้งทำให้เรามีนิสัยที่ดีสำหรับการประสบความสำเร็จในวันหน้าได้

วัยรุ่นเป็นช่วงวัยที่หลายคนเคยผ่านมาและหลายคนกำลังเผชิญอยู่ โดยเฉพาะในช่วงปี 2022 ที่มีภาวะโควิดระบาด มีการตกงานและเศรษฐกิจตกต่ำทั่วไป นี่จึงเป็นก้าวสำคัญที่เราจะตัดสินใจอย่างมีสติว่า ทุกย่างก้าวต่อไปของเราควรเป็นเช่นไร และแม้เส้นทางข้างหน้าจะยากลำบาก มีปัญหาเพียงใด แต่เชื่อเถอะว่า หากเราผ่านเรื่องราวต่าง ๆ นี้ได้​ เราจะกลายเป็นหนึ่งในวัยรุ่นสร้างตัวที่ประสบความสำเร็จที่สุดอย่างแน่นอน

เรื่องของเวลา

บริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพสไตล์อีลอน มัสก์

บริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพสไตล์อีลอน มัสก์

ใครเคยสงสัยบ้างว่า นักธุรกิจที่มีธุรกิจมูลค่ามหาศาล มีพนักงานนับหมื่นคน มีโรงงาน มีสาขานับร้อยนับพันแห่งทั่วโลก เขามีวิธีการจัดการกับเวลาที่มีเพียง 24 ชั่วโมงเท่ากับเราอย่างไร ทำไมเขาถึงบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพจนสร้างผลงานระดับโลกออกมาอยู่เสมอ ทั้งที่งานที่ต้องคิดต้องทำน่าจะมากกว่าคนทั่วไปหลายเท่าตัวนัก

หนึ่งในนักธุรกิจ นักสร้างสรรค์นวัตกรรมระดับโลกเจ้าของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าเทสล่าและบริษัทด้านกิจการอวกาศสเปชเอ็กซ์ อย่างอีลอน มัสก์ ก็เป็นหนึ่งในบุคคลตัวอย่างที่ถูกพูดถึงว่าเขาสามารถบริหารจัดการเวลาการทำงานและชีวิตส่วนตัวในแต่ละวันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดคนหนึ่ง หลายคนคงอยากทราบว่าอีลอน มัสก์มีวิธีบริหารจัดการเวลาอย่างไรในแต่ละวัน เขาจึงทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนกลายเป็นบุคคลระดับโลกที่ทุกคนต่างยอมรับกัน เรามาดูกัน ดังนี้

1. ในแต่ละสัปดาห์อีลอน มัสก์ทำงาน 80-100 ชั่วโมง
คนทั่วไปทำงานกันสัปดาห์ 40-60 ชั่วโมงก็แทบจะหมดแรง แต่คนที่เป็นผู้บริหารที่ร่ำรวยมหาศาลอย่างอีลอน มัสก์กลับทุ่มเททำงานมากกว่าคนทั่วไปถึง 20-40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

2. เทคนิคการบริหารจัดการเวลาแบบ Time boxing
อีลอน มัสก์เป็นหนึ่งในคนดังหลายคนที่ใช้หลักการบริหารเวลาแบบที่เรียกว่า time boxing หรือการกำหนดกิจกรรมการทำงานตามกล่องต่าง ๆ โดยวิธีการก็คือ เขาจะสร้างกล่องสี่เหลี่ยมขึ้นมาหลาย ๆ กล่องอาจจะเป็นกล่องจริง ๆ หรือกล่องโดยสมมติก็ได้ เสร็จแล้วก็เขียนสิ่งที่ตั้งใจจะทำลงไปในกล่องแต่ละใบ พร้อมระบุเวลาที่ต้องการจะทำให้สำเร็จลงไปด้วย

3. เรียนรู้เวลาที่ควรใช้ในกล่องแต่ละใบ
กิจกรรมต่าง ๆ ที่ระบุลงในกล่องแต่ละใบ ในครั้งแรกจะไม่มีทางทราบได้ว่ากิจกรรมนี้ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรืองานส่วนตัวต้องใช้เวลาทำเท่าไหร่งานจึงจะสำเร็จ หรือคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปมากที่สุด จึงต้องใช้วิธีประมาณการเอาไว้ก่อน แล้วจึงค่อย ๆ ปรับระยะเวลาให้ตรงกับความเหมาะสมในภายหลัง

4. หาจุดบกพร่องจากกล่องที่ใช้เวลามากเกินไป
เมื่อลงมือทำงานตามกิจกรรมที่ระบุไว้ในแต่ละกล่อง หากกิจกรรมหรืองานชิ้นไหนที่ใช้เวลามากเกินที่กำหนดไว้ หลังจากจบวัน เราสามารถนำกิจกรรมในกล่องนั้นมาวิเคราะห์หาสาเหตุที่ทำให้เราทำงานได้ล่าช้า เพื่อหาทางแก้ไขปรับปรุงขั้นตอนการทำงานใหม่ในครั้งหน้า

5. กำหนดเวลาทำให้เราเลือกทำเฉพาะงานที่จำเป็น
การมีกรอบเวลาในสิ่งที่ต้องการจะทำในแต่ละอย่าง จะช่วยให้การทำงานที่ไม่จำเป็นและเรื่องไร้สาระถูกขจัดออกไป จะเหลือเฉพาะสิ่งที่จำเป็นต่อการทำงานให้เสร็จตามเป้าหมาย เพราะมีกรอบเวลามาเป็นตัวบีบบังคับ

หลายคนอาจจะมองว่าการบริหารเวลาแบบนี้ เป็นการกดดันตัวเองมากเกินไปหรือเปล่า นี่อย่างไรเล่าที่เป็นความแตกต่างระหว่างคนทั่วไปกับคนอย่างอีลอน มัสก์ เพราะคนที่คิดงานใหญ่ระดับโลกได้ สิ่งที่เราเรียกว่าความกดดัน พวกเขาเรียกสิ่งนั้นว่า “ความท้าทาย”